นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้รับการปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563

1. บทนำ


บริษัทอินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ได้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยมุ่งมั่นที่จะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฏหมาย นโยบายฉบับนี้มีขึ้นเพื่อใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลของบุคคลซึ่งมีปฏิสัมพันธ์กับบริษัท ขอให้ท่านผู้เกี่ยวข้องได้โปรดอ่านนโยบายฉบับนี้อย่างละเอียด โดยนโยบายฉบับนี้ได้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงสิทธิความเป็นส่วนตัวของท่าน

2. คำนิยาม


ข้อความและคำใดๆ ที่ใช้ในนโยบายฉบับนี้ ให้มีความหมายดังต่อไปนี้

(1) “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลธรรมดานั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

(2) “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย ซึ่งรวมถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (และอาจมีการแก้ไขในอนาคต)

(3) “ประมวลผล”หมายถึง การดำเนินการใดๆ หรือการดำเนินการหลายอย่างซึ่งกระทำกับข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระเบียบ การจัดเก็บ การดัดแปลงหรือการปรับเปลี่ยน การกู้คืน การปรึกษา การใช้ การเปิดเผยโดยการส่ง การแพร่กระจาย หรือการจัดให้มีด้วยวิธีอื่นๆ การจัดเรียงหรือการรวมกัน การขัดขวาง การลบ หรือการทำลาย

3. ผู้ควบคุมข้อมูลและการติดต่อ


บริษัทอินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จะดูแลข้อมูลส่วนบุคคลและรับผิดชอบในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ดำเนินการโดยบริษัท และควบคุมการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทย่อยของบริษัทก็มีการประกาศใช้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนของตนเอง โดยแต่ละบริษัทย่อยนั้นจะทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมและดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับกิจกรรมของตนเอง
หากท่านมีคำถามใดๆ หรือต้องการติดต่อ เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทโดย

• ส่ง e-mail มาที่ PDPAnotice@intouchcompany.com หรือ

• ส่งจดหมายมายัง ฝ่ายกฎหมาย บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) 87 อาคารเอ็มไทย ทาวเวอร์ ออลซีซั่นส์ เพลส ชั้นที่ 27 ยูนิต 2 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

4. การประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล


บริษัท จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและประมวลผล ตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนดและอนุญาตไว้ (“ฐานทางกฎหมาย”) ซึ่งมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้

(1) จดหมายเหตุ/วิจัย/สถิติเพื่อประโยชน์สาธารณะ: เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล

(2) เพื่อประโยชน์สำคัญต่อชีวิต: เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

(3) ตามสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลก่อนเข้าทำสัญญา

(4) เพื่อภารกิจของรัฐ: เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

(5) เพื่อประโยชน์อันชอบธรรม: เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูล หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูล เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

(6) เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย: เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทซึ่งเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

(7) ด้วยความยินยอม: เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นไปตามความยินยอมและอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้แก่ผู้ควบคุมข้อมูล

โดยทั่วไป บริษัทจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ตามสัญญา เพื่อประโยชน์อันชอบธรรม และ/หรือ เป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีอื่นที่ไม่เข้าลักษณะใดลักษณะหนึ่งของฐานตามกฎหมายดังกล่าว บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อนดำเนินการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

5. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน


บริษัทจะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งอาจแบ่งตามกิจกรรมที่ท่านมีส่วนเกี่ยวข้องและความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทในแต่ละเรื่อง เช่น ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ผู้ติดต่อธุรกิจ เป็นต้น ท่านสามารถดูรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทใช้ประมวลผล วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายสำหรับใช้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล การแบ่งปันและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลในแต่ละกิจกรรมและความสัมพันธ์ได้ที่ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

สำหรับระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลจะเป็นไปตามระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ โดยบริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นในแต่ละเรื่อง ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทกำหนดและแจ้งให้ท่านทราบหรือยินยอมแล้ว รวมถึง ตามฐานทางกฎหมาย หลังจากนั้น ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกลบ ทำลายทิ้ง ถูกปิดกั้น หรือถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนได้อีกต่อไป

6. ความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล


บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลงหรือเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งจะทบทวนมาตรการดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่ามาตรการดังกล่าวยังคงมีความเหมาะสม นอกจากนี้ ผู้ที่จะเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกจำกัดเฉพาะผู้ที่มีอำนาจซึ่งได้รับการพิจารณาแล้วว่ามีความจำเป็นที่ต้องรับทราบรายละเอียดข้อมูลดังกล่าว โดยผู้ที่มีอำนาจดังกล่าวนี้จะต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามคำสั่งของบริษัทและมีหน้าที่รับผิดชอบในการเก็บรักษาความลับเท่านั้น

บริษัทอาจใช้บริการผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลภายนอกที่มีมาตรฐานและสามารถไว้วางใจได้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในนามของบริษัท ซึ่งผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลภายนอกนี้จะต้องมีมาตรการด้านความมั่นคงปลอดภัยอย่างเหมาะสมเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและมาตรการนั้นต้องสอดคล้องกับนโยบายของบริษัท บริษัทไม่อนุญาตให้ผู้ให้บริการดังกล่าวใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ ของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการจะได้รับอนุญาตให้ประมวลผลข้อมูลของท่านตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของบริษัทและตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงในการประมวลผลเท่านั้น

หากท่านพบปัญหาความปลอดภัยที่ดำเนินการโดยบริษัท กรุณาแจ้งให้บริษัททราบโดยทันที ทั้งนี้ บริษัทจัดให้มีขั้นตอนดำเนินการที่รัดกุมในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และในกรณีที่มีการละเมิดดังกล่าวบริษัทจะแจ้งต่อท่านและหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐที่เกี่ยวข้องตามกฎเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้

7. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล


บริษัทรับทราบสิทธิต่างๆ ของท่าน ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลของท่าน สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล สิทธิในการคัดค้าน สิทธิในการลบ สิทธิในการระงับการใช้ สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านสามารถใช้สิทธิเหล่านี้ โดยติดต่อมายังบริษัทตามช่องทางการติดต่อที่ได้แจ้งไว้ในข้อ 3 ทั้งนี้บริษัทจะพิจารณาดำเนินการตามคำขอที่เหมาะสมของท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทได้รับ คำขอ เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัยประการอื่น บริษัทจะรีบแจ้งให้ท่านทราบโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม บริษัทจะติดต่อกลับไปยังท่านเพื่อให้ท่านยืนยันตัวตนก่อนที่บริษัทจะดำเนินการตามคำขอดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อพิสูจน์ ว่าท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นและเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความปลอดภัย ในกรณีที่ท่านสงสัยเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทจัดการข้อมูลของท่านหรือเกี่ยวกับการใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อกับบริษัทได้ตลอดเวลาเพื่อให้แก้ไขปัญหาให้แก่ท่าน โดยติดต่อมายังบริษัทตามช่องทางการติดต่อที่ได้แจ้งไว้ในข้อ 3

8. การปรับปรุงนโยบายฉบับนี้


เพื่อความปลอดภัยและความคล่องตัวในการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว โดยเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบโดยระบุวันที่แก้ไขปรับปรุงไว้ด้านบนของนโยบายฉบับนี้ และให้มีผลตั้งแต่วันที่ได้ระบุไว้ดังกล่าวเป็นต้นไป ทั้งนี้ หากบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงที่มีสาระสำคัญต่อนโยบายฉบับนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบตามกฎเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด